นิทานพื้นบ้าน เรื่อง พญาคันคาก พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานพื้นบ้าน เรื่อง พญาคันคาก พร้อมข้อคิดสอนใจ

“พญาคันคาก” เป็นวรรณกรรมและนิทานพื้นบ้านที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของกลุ่มวัฒนธรรมไทย-ลาว โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทย ถือเป็นตำนานปรัมปราที่ใช้อธิบายที่มาของประเพณีที่ยิ่งใหญ่อย่าง “บุญบั้งไฟ” เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงโลกทัศน์, ความเชื่อ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอำนาจเหนือธรรมชาติ เป็นเรื่องราวการต่อสู้ของผู้นำผู้ทรงธรรมเพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษย์และสรรพสัตว์

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวของพญาคันคากสามารถแบ่งออกเป็นช่วงสำคัญๆ ได้ดังนี้

กำเนิดโอรสคันคาก

ในอดีตกาล มีพระราชาแห่งเมืองอินทปัตถ์ได้ประสูติพระโอรสซึ่งมีลักษณะแปลกประหลาด คือมีผิวพรรณดุจทองคำแต่มีสัณฐานเหมือนคางคก (ในภาษาถิ่นอีสาน-ลาวเรียกว่า “คันคาก”) จึงได้พระนามว่า “พญาคันคาก” แม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่อัปลักษณ์ แต่พระกุมารก็ทรงเปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรมและมีบุญบารมีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเจริญวัยขึ้น ร่างกายที่เป็นคางคกก็ได้ลอกคราบออก เผยให้เห็นรูปโฉมที่แท้จริงเป็นชายหนุ่มรูปงาม และได้อภิเษกสมรสกับ พระนางอุดร ผู้เลอโฉม

เหตุแห่งสงคราม

พญาคันคากได้ปกครองบ้านเมืองด้วยความยุติธรรมและเมตตาธรรม จนเป็นที่รักและเคารพบูชาของมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งปวง ทุกคนต่างพากันนำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่พญาคันคาก จนลืมที่จะส่งเครื่องบรรณาการไปถวาย “พญาแถน” เทพผู้ยิ่งใหญ่บนสวรรค์ซึ่งเป็นผู้บันดาลให้ฝนตก

พญาแถนเมื่อไม่ได้รับเครื่องบวงสรวงก็บังเกิดความพิโรธอย่างยิ่ง และด้วยความอิจฉาริษยาในบารมีของพญาคันคาก จึงได้กลั่นแกล้งโดยการไม่ปล่อยให้ฝนตกลงมายังโลกมนุษย์เป็นเวลาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน จนเกิดความแห้งแล้งทุกหย่อมหญ้า แม่น้ำลำคลองเหือดแห้ง ผู้คนและสัตว์ล้มตายเป็นจำนวนมาก

พญาคันคากประกาศศึก

เมื่อเห็นความทุกข์ยากของไพร่ฟ้าประชาชน พญาคันคากจึงตัดสินใจที่จะทำสงครามกับพญาแถนเพื่อทวงคืนสายฝนกลับมาสู่โลกมนุษย์ พระองค์ได้รวบรวมไพร่พลซึ่งไม่ได้มีเพียงมนุษย์ แต่เป็นกองทัพแห่งสรรพสัตว์นานาชนิด โดยมีการวางแผนรบอย่างแยบยล

  • ให้ปลวก ทำการก่อจอมปลวกขึ้นไปจนถึงเมืองสวรรค์เพื่อเป็นเส้นทางเดินทัพ
  • ให้มด แอบเข้าไปกัดกินอาวุธและเสื้อเกราะของพญาแถน
  • ให้แมงป่องและตะขาบ ซ่อนตัวอยู่ตามฉลองพระบาท (รองเท้า) และเครื่องทรงของพญาแถน
  • ให้ต่อและแตน คอยโจมตีเข้าที่ดวงตาของเหล่าทหารและช้างม้าของพญาแถน

ชัยชนะและพันธสัญญา

กองทัพสรรพสัตว์ของพญาคันคากได้บุกขึ้นไปถึงเมืองพญาแถนและทำการรบตามแผนที่วางไว้ ทำให้กองทัพสวรรค์เกิดความปั่นป่วนและพ่ายแพ้ในที่สุด พญาแถนจึงต้องยอมจำนนต่อพญาคันคาก

แต่ด้วยทศพิธราชธรรม พญาคันคากไม่ได้สังหารพญาแถน แต่ได้ทำพันธสัญญาที่สำคัญขึ้น 3 ข้อ คือ:

  1. เมื่อถึงฤดูทำนา ขอให้พญาแถนบันดาลให้ฝนตกลงมาตามฤดูกาล
  2. หากปีใดฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล มนุษย์จะทำ “บั้งไฟ” จุดขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณเตือน
  3. เมื่อฝนตกลงมาแล้ว กบเขียดจะส่งเสียงร้องเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่ามีน้ำเพียงพอแล้ว

นับตั้งแต่นั้นมา ประเพณีบุญบั้งไฟจึงได้ถือกำเนิดขึ้นและสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

คติสอนใจและแง่คิด

นิทานพื้นบ้าน เรื่อง พญาคันคาก นี้ให้แง่คิดที่สำคัญหลายประการ:

  • ผู้นำที่แท้จริง: คุณค่าของผู้นำไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่อยู่ที่ความดีงาม, ทศพิธราชธรรม และความพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของส่วนรวม
  • พลังแห่งความสามัคคี: การรวมพลังกันของสรรพสัตว์ที่ดูต้อยต่ำ สามารถเอาชนะอำนาจที่ยิ่งใหญ่บนสวรรค์ได้ แสดงให้เห็นถึงพลังของความสามัคคี
  • ที่มาของประเพณี: เป็นเรื่องราวที่อธิบายความเชื่อมโยงระหว่างความเชื่อ, พิธีกรรม (บุญบั้งไฟ) และวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติ (การทำนา) ของผู้คนในแถบนี้

พุทธภาษิต

“สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี” (สุขา สังฆัสสะ สามัคคี) คำแปล: ความสามัคคีของหมู่คณะ นำสุขมาให้