ณ หุบเขาแห่งหนึ่ง มีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน และมีสะพานไม้เก่าๆ ที่แคบมากทอดข้ามลำธารนั้นอยู่ สะพานนี้สามารถรองรับให้สัตว์เดินข้ามได้เพียงทีละตัวเท่านั้น ที่สองฝั่งของลำธารเป็นที่อยู่อาศัยของแพะสองฝูง ซึ่งต่างก็มีหัวหน้าฝูงที่แข็งแกร่งและไม่ยอมใคร
เนื้อเรื่อง
วันหนึ่ง หัวหน้าแพะจากฝั่งตะวันออกและหัวหน้าแพะจากฝั่งตะวันตกได้บังเอิญเดินทางมาพบกันที่กลางสะพานไม้แคบๆ แห่งนี้พอดี ด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างก็เป็นหัวหน้าและไม่เคยยอมก้มหัวให้ใคร หัวหน้าแพะจากฝั่งตะวันออกจึงได้ตะโกนสั่งให้อีกฝ่ายหลีกทางให้ตนข้ามไปก่อน แต่หัวหน้าแพะจากฝั่งตะวันตกก็ไม่ยอมและได้ตะโกนกลับไปว่าอีกฝ่ายต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถอยกลับไป
เมื่อไม่มีใครยอมใครและต่างฝ่ายต่างก็ยึดมั่นในศักดิ์ศรีของตนเอง บรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดด้วยความโกรธและทิฐิมานะ แพะทั้งสองตัวจึงได้กระโจนเข้าใส่กันและใช้เขาอันแหลมคมของพวกมันขวิดสู้กันอย่างดุเดือดอยู่บนสะพานไม้ที่โยกเยกนั้น
การต่อสู้อันรุนแรงของพวกมันได้ทำให้สะพานไม้เก่าๆ ที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้วนั้นสั่นคลอนอย่างหนัก และในที่สุดสะพานก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและการต่อสู้ของพวกมันไหว จึงได้พังครืนลงมาอย่างไม่มีชิ้นดี ทำให้แพะผู้ทะนงตนทั้งสองตัวตกลงไปในลำธารที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกรากอยู่เบื้องล่าง และถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปในที่สุด
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง แพะสองตัว นี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่ยึดมั่นในทิฐิมานะของตนเองจนเกินไปและไม่รู้จักการโอนอ่อนผ่อนปรน ย่อมนำมาซึ่งความพินาศและความหายนะแก่ตนเองและบางครั้งก็รวมถึงผู้อื่นด้วย”