นิทานอีสป เรื่อง มดงานกับดักแด้ พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง มดงานกับดักแด้ พร้อมข้อคิดสอนใจ

ในอาณาจักรมดอันกว้างใหญ่ใต้ผืนดิน มีมดงานฝูงหนึ่งที่ขยันขันแข็งเป็นอย่างยิ่ง พวกมันทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในทุกๆ วัน เพื่อหาอาหารมาเก็บตุนไว้ในรัง วันหนึ่งขณะที่พวกมันกำลังเดินแถวออกไปหาอาหารเช่นเคย พวกมันก็ได้พบกับดักแด้ตัวหนึ่งเกาะนิ่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่

เนื้อเรื่อง

มดงานตัวหนึ่งเมื่อเห็นดักแด้นอนนิ่งไม่ไหวติง ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ดูเจ้าตัวขี้เกียจนี่สิ เอาแต่นอนนิ่งไม่ทำอะไรเลย ช่างน่าสมเพชเสียจริง” มดงานอีกตัวก็พูดเสริมขึ้นมาว่า “ใช่ๆ ดูพวกเราสิ ต้องทำงานหนักหาอาหารกันทั้งวัน แต่เจ้ากลับนอนสบายอยู่ได้” พวกมดงานต่างพากันหัวเราะเยาะและมองดักแด้ด้วยสายตาดูแคลน แต่ดักแด้นั้นไม่ได้ตอบโต้อะไร มันยังคงนอนนิ่งสงบอยู่ในเปลือกของมันต่อไป

เวลาผ่านไปหลายวัน เหล่ามดงานก็ยังคงทำงานหนักเช่นเดิม วันหนึ่งพวกมันได้เดินกลับมาที่ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกมันกลับไม่เห็นดักแด้ตัวนั้นแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงเปลือกแห้งๆ ที่ว่างเปล่าเกาะอยู่บนกิ่งไม้เท่านั้น ขณะที่พวกมดงานกำลังสงสัยอยู่นั้นเอง ก็ได้มีผีเสื้อแสนสวยตัวหนึ่งบินลงมาทักทายพวกมัน

ผีเสื้อตัวนั้นมีปีกที่งดงามและมีสีสันสดใส มันบินร่อนไปมาอย่างอิสระแล้วพูดกับเหล่ามดงานว่า “น่าสงสารพวกท่านเสียจริงที่ต้องทำงานหนักเยี่ยงทาสอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ลองดูข้าสิ ตอนนี้ข้ามีปีกที่สวยงามและสามารถโบยบินไปได้ทุกที่ที่ข้าต้องการ ข้าได้ลิ้มรสน้ำหวานเกสรจากดอกไม้นานาพันธุ์ ช่างเป็นชีวิตที่มีความสุขเสียนี่กระไร”

เหล่ามดงานเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงและเพิ่งจะตระหนักได้ว่า ผีเสื้อแสนสวยที่อยู่ตรงหน้าพวกมันก็คือดักแด้ที่พวกมันเคยหัวเราะเยาะและดูถูกไว้นั่นเอง พวกมันรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่งและได้แต่ก้มหน้ายอมรับในความผิดของตนเอง

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง มดงานกับดักแด้ นี้สอนให้รู้ว่า “อย่าตัดสินคุณค่าของใครจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือสิ่งที่เห็นในปัจจุบัน เพราะทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้เสมอ”