ในป่าใหญ่อันกว้างใหญ่ มีกระต่ายตัวหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วในการวิ่ง มันมักจะโอ้อวดฝีเท้าของตนเองอยู่เสมอและชอบดูถูกสัตว์อื่นๆ ที่เชื่องช้ากว่า โดยเฉพาะเต่าที่มันมักจะหัวเราะเยาะอยู่เป็นประจำว่า “เจ้าเต่าสี่ขา เดินต้วมเตี้ยมอย่างนี้ เมื่อไหร่จะถึงที่หมายกันนะ”
เนื้อเรื่อง
วันหนึ่ง ด้วยความรำคาญในคำสบประมาทของกระต่าย เต่าจึงได้ท้ากระต่ายวิ่งแข่งเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น กระต่ายเมื่อได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงดังลั่นและตอบตกลงในทันที มันคิดว่านี่เป็นเรื่องตลกสิ้นดีและมั่นใจว่าตนเองจะชนะได้อย่างแน่นอน
เมื่อวันแข่งขันมาถึง สัตว์ต่างๆ ในป่าต่างพากันมาให้กำลังใจเต่าและรอดูการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์นี้ ทันทีที่สัญญาณเริ่มการแข่งขันดังขึ้น กระต่ายก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนหายลับไปจากสายตา ในขณะที่เต่ายังคงคลานต้วมเตี้ยมไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
กระต่ายวิ่งนำไปได้ไกลมากจนไม่เห็นแม้แต่เงาของเต่า ด้วยความประมาทและความชะล่าใจ มันจึงคิดที่จะแวะพักงีบหลับใต้ต้นไม้ใหญ่เสียก่อน “เจ้าเต่าคงอีกนานกว่าจะคลานมาถึง ข้าของีบเอาแรงสักหน่อยดีกว่า ยังไงข้าก็ชนะอยู่แล้ว” กระต่ายคิดในใจแล้วก็เผลอหลับไปในที่สุด
ในขณะที่กระต่ายกำลังหลับอย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น เต่าก็ยังคงมุ่งมั่นคลานต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ มันค่อยๆ คลานผ่านกระต่ายที่กำลังหลับอยู่และมุ่งหน้าไปยังเส้นชัยอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ
เมื่อกระต่ายสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็ตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อไม่เห็นเต่าอยู่ข้างหลังแล้ว มันรีบวิ่งสุดฝีเท้าเพื่อที่จะตามให้ทัน แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เพราะเต่าได้คลานมาถึงเส้นชัยและเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับเต่า นี้สอนให้รู้ว่า “ความพยายามและความมุ่งมั่นอย่างสม่ำเสมอ ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จได้ในที่สุด แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ในทางกลับกัน ความประมาทและความชะล่าใจคือหนทางสู่ความพ่ายแพ้”