นิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับกบ พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับกบ พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าใหญ่อันกว้างไพศาล มีฝูงกระต่ายป่าฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน พวกมันเป็นสัตว์ที่ขี้ขลาดและหวาดระแวงต่อทุกสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมพัด, เงาของกิ่งไม้ หรือแม้แต่เสียงฝีเท้าของพวกมันเอง ทำให้พวกมันใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย

เนื้อเรื่อง

วันหนึ่ง เหล่ากระต่ายได้มาประชุมพร้อมกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับชะตาชีวิตอันน่าเศร้าของพวกตน

“พวกเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไรกัน?” กระต่ายตัวหนึ่งพูดขึ้นด้วยความสิ้นหวัง “ชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เราจะได้อยู่อย่างสงบสุข ข้าว่าการที่เรายอมตายไปเสียยังจะดีกว่าการที่จะต้องมาทนทุกข์ทรมานอยู่เช่นนี้”

กระต่ายทุกตัวในที่ประชุมต่างก็เห็นพ้องต้องกัน พวกมันจึงได้ตัดสินใจที่จะไปกระโดดน้ำตายที่หนองน้ำใกล้ๆ เพื่อจบชีวิตอันน่าเศร้าของตนเองลง

ว่าแล้วฝูงกระต่ายทั้งหมดก็ได้พากันวิ่งตรงไปยังหนองน้ำ แต่ทันทีที่พวกมันวิ่งไปถึงริมหนองน้ำนั้นเอง ฝูงกบจำนวนมากที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ริมตลิ่ง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฝูงกระต่ายและเห็นว่ามีสัตว์กลุ่มใหญ่กำลังวิ่งตรงมายังที่ที่พวกตนอยู่ พวกมันก็ต่างพากันตกใจกลัวอย่างสุดขีดและรีบกระโดดหนีลงไปในน้ำจนหมดสิ้น

กระต่ายชราตัวหนึ่งซึ่งเป็นผู้นำฝูงเมื่อได้เห็นภาพนั้น ก็ได้หยุดชะงักและร้องบอกกับเพื่อนๆ ของตนว่า

“หยุดก่อนสหายทั้งหลาย! พวกเรายังไม่ต้องรีบตายกันในตอนนี้แล้ว!” กระต่ายชรากล่าว “พวกท่านเห็นหรือไม่ว่า ยังมีสัตว์ที่ขี้ขลาดและน่าสงสารกว่าพวกเราอยู่อีก พวกมันหวาดกลัวแม้กระทั่งพวกเราซึ่งเป็นสัตว์ที่ขี้ขลาดที่สุดในป่า ในเมื่อยังมีผู้ที่โชคร้ายกว่าเรา เราก็ควรที่จะมีความกล้าหาญที่จะใช้ชีวิตต่อไป”

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง กระต่ายกับกบ นี้สอนให้รู้ว่า “ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่าตนเองโชคร้ายหรือต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากมากเพียงใด แต่ก็จงระลึกไว้เสมอว่ายังมีคนอีกมากมายที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าเราอยู่เสมอ”

พุทธภาษิต

“อตฺตานํ อุปมํ กเร” (อัตตานัง อุปะมัง กะเร) คำแปล: พึงเอาใจเขามาใส่ใจเรา