นิทานอีสป เรื่อง นกยูงกับนกกระเรียน พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง นกยูงกับนกกระเรียน พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ริมบึงอันงดงาม มีนกยูงผู้หยิ่งผยองตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันภาคภูมิใจในขนหางอันสวยงามหลากสีสันของตนเองเป็นอย่างยิ่ง และมักจะเดินรำแพนหางอวดโฉมไปมาให้สัตว์อื่นๆ ได้ชื่นชมและอิจฉา

เนื้อเรื่อง

วันหนึ่ง ขณะที่นกยูงกำลังรำแพนหางอวดความงามของตนเองอยู่นั้น ก็ได้มีนกกระเรียนตัวหนึ่งบินผ่านมา นกยูงเมื่อเห็นนกกระเรียนซึ่งมีขนสีเทาธรรมดาๆ ก็รู้สึกดูแคลนและได้เอ่ยปากเยาะเย้ยขึ้นว่า

“ดูขนของเจ้าสิ! ช่างจืดชืดและไร้สีสันเสียจริง!” นกยูงกล่าวพลางสะบัดขนหางของตนให้ส่องประกายกระทบแสงอาทิตย์ “มาดูขนของข้าเสียบ้างสิ มันงดงามราวกับอัญมณีล้ำค่าหลากสีสันที่ประดับอยู่บนผืนผ้าไหมชั้นเลิศ ข้าคือนกที่สวยงามที่สุดในโลกอย่างแท้จริง”

นกกระเรียนเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย มันตอบกลับไปอย่างใจเย็นว่า

“ท่านพูดถูกแล้ว… ขนของท่านนั้นงดงามจับใจจริงๆ” นกกระเรียนกล่าว “แต่ขนที่งดงามของท่านนั้นทำได้เพียงให้ท่านเดินอวดโฉมอยู่บนพื้นดินเท่านั้น”

“ส่วนขนที่ดูธรรมดาๆ ของข้านี้” นกกระเรียนพูดต่อพลางสยายปีกอันแข็งแรงของมันออก “กลับสามารถพาข้าโบยบินขึ้นไปได้สูงเทียมเมฆ ที่ซึ่งข้าจะได้ชื่นชมความงดงามของโลกทั้งใบจากบนท้องฟ้า”

พูดจบ นกกระเรียนก็ได้บินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ทิ้งให้นกยูงผู้หยิ่งผยองได้แต่ยืนแหงนหน้ามองตามด้วยความอิจฉา

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง นกยูงกับนกกระเรียน นี้สอนให้รู้ว่า “ประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริงย่อมมีคุณค่ามากกว่าความสวยงามเพียงเปลือกนอก”

พุทธภาษิต

“สารญฺจ สารโต ญตฺวา อสารญฺจ อสารโต” (สารัญจะ สาระโต ญัตวา อะสารัญจะ อะสาระโต) คำแปล: พึงรู้สิ่งที่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสิ่งไม่เป็นสาระ