นิทานพื้นบ้าน เรื่อง เมขลากับรามสูร พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานพื้นบ้าน เรื่อง เมขลากับรามสูร พร้อมข้อคิดสอนใจ

“เมขลากับรามสูร” เป็นตำนานอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ (Etiological Myth) ที่ชาวไทยเล่าสืบต่อกันมาแต่โบราณ เพื่ออธิบายถึงที่มาของ ฟ้าแลบ และ ฟ้าร้อง เรื่องราวนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม โดยมี นางเมขลา เทพธิดาผู้ถือดวงแก้ววิเศษเป็นตัวแทนฝ่ายธรรมะ และ รามสูร ยักษ์ผู้เกเรที่ต้องการแย่งชิงดวงแก้วเป็นตัวแทนฝ่ายอธรรม

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวนี้สามารถแบ่งออกเป็นช่วงสำคัญๆ ได้ดังนี้

นางเมขลาผู้พิทักษ์ดวงแก้ว

ในอดีตกาล มีนางฟ้าองค์หนึ่งนามว่า เมขลา ได้รับมอบหมายหน้าที่อันสำคัญให้พิทักษ์รักษาดวงแก้วมณีอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นของวิเศษประจำมหาสมุทร ดวงแก้วนี้มีอานุภาพส่องแสงสว่างไสวเจิดจรัสไปทั่วทั้งท้องฟ้าและท้องทะเล นางเมขลามีความสุขกับการทำหน้าที่ของตนเอง เธอมักจะเหาะร่ายรำและโยนดวงแก้วเล่นอย่างสนุกสนานอยู่เหนือหมู่เมฆ ทำให้เกิดเป็นแสงสว่างวาบแปลบปลาบไปทั่วท้องฟ้า

รามสูร ยักษ์เกเรผู้ต้องการครอบครอง

ณ สวรรค์อีกชั้นหนึ่ง มียักษ์ตนหนึ่งนามว่า รามสูร มีนิสัยเกเรและมักจะรังแกผู้อื่นอยู่เสมอ รามสูรมีอาวุธคู่กายคือ “ขวานเพชร” อันทรงอานุภาพ วันหนึ่งรามสูรได้เห็นแสงสว่างอันงดงามของดวงแก้ววิเศษที่นางเมขลากำลังโยนเล่นอยู่ ก็บังเกิดความโลภและต้องการที่จะได้มาครอบครองเป็นของตนเอง

การไล่ล่าบนฟากฟ้า

รามสูรจึงได้เหาะเข้าไปหานางเมขลาเพื่อที่จะแย่งชิงดวงแก้ว แต่นางเมขลาผู้ปราดเปรียวก็สามารถหลบหลีกไปได้อย่างรวดเร็ว รามสูรเมื่อไล่ตามไม่ทันก็บังเกิดความโกรธ จึงได้ขว้างขวานเพชรของตนออกไปหมายจะสังหารนางเมขลาและชิงเอาดวงแก้วมาให้ได้

แต่ทุกครั้งที่รามสูรขว้างขวานออกไป นางเมขลาก็จะใช้แสงจากดวงแก้วมณีส่องเข้าตาของรามสูร ทำให้รามสูรตาพร่ามัวและขว้างขวานพลาดเป้าไปทุกครั้ง

การไล่ล่าระหว่างนางเมขลากับรามสูรจึงเกิดขึ้นอยู่เสมอมาบนท้องฟ้าในยามที่ฝนฟ้าคะนอง แสงสว่างวาบแปลบปลาบที่เกิดขึ้นจากการที่นางเมขลาล่อหลอกรามสูรด้วยดวงแก้ววิเศษนั้น ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ “ฟ้าแลบ” ส่วนเสียงดังกึกก้องกัมปนาทที่เกิดจากการที่รามสูรขว้างขวานเพชรพลาดไปกระทบกับก้อนเมฆนั้น ก็ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ “ฟ้าร้อง” ที่เราได้เห็นและได้ยินกันมาจนถึงทุกวันนี้

คติสอนใจและแง่คิด

นิทานพื้นบ้าน เรื่อง เมขลากับรามสูร นี้ให้แง่คิดที่สำคัญหลายประการ:

  • ธรรมะย่อมชนะอธรรม: แม้ว่ารามสูรจะมีพละกำลังและอาวุธที่ร้ายกาจ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเอาชนะนางเมขลาผู้เป็นตัวแทนแห่งความดีงามได้ เป็นการสอนว่าความดีงามและปัญญาย่อมมีชัยเหนือความชั่วร้ายและความโลภเสมอ
  • คำอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ: เป็นกุศโลบายของคนโบราณในการใช้นิทานเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่ากลัวให้กลายเป็นเรื่องราวที่เข้าใจง่ายและไม่น่ากลัวอีกต่อไป
  • ที่มาของศิลปะการแสดง: เรื่องราวของเมขลากับรามสูรได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ศิลปะการแสดงของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ารำของการแสดงโขนและละครไทย

พุทธภาษิต

“ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ” (ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง) คำแปล: ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม