นิทานก่อนนอน เรื่อง คุณหมีน้อยนุ่มฟูหาที่นอนที่สบายที่สุด พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานก่อนนอน เรื่อง คุณหมีน้อยนุ่มฟูหาที่นอนที่สบายที่สุด พร้อมข้อคิดสอนใจ

ในป่าใหญ่อันแสนอบอุ่น มีคุณหมีน้อยขนปุกปุยตัวหนึ่งชื่อว่า “บาร์นาบี” บาร์นาบีรักการนอนเป็นชีวิตจิตใจ แต่ในคืนพระจันทร์เต็มดวงคืนหนึ่ง เขากลับนอนไม่หลับเสียอย่างนั้น เขารู้สึกว่าเตียงมอสส์นุ่มๆ ในถ้ำของเขาที่เคยนอนสบายที่สุด มันไม่สบายเหมือนเคยเสียแล้ว เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางเพื่อตามหา “ที่นอนที่สบายที่สุดในโลก”

เนื้อเรื่อง

บาร์นาบีเดินออกจากถ้ำไปในความมืดอันเงียบสงบ เขาปีนขึ้นไปบนต้นโอ๊กใหญ่และได้พบกับรังของ คุณกระรอก ที่บุด้วยใบไม้แห้งอย่างดี “ที่นอนของท่านช่างดูอบอุ่นจัง ข้าขอลองนอนหน่อยได้ไหม?” บาร์นาบีเอ่ยถาม คุณกระรอกใจดีก็อนุญาต แต่เมื่อบาร์นาบีลองเข้าไปนอน เขาก็พบว่ามันทั้งเล็กและแข็งเกินไปสำหรับหมีน้อยนุ่มฟูอย่างเขา

เขาจึงกล่าวขอบคุณแล้วเดินทางต่อไปจนพบกับโพรงของ คุณกระต่าย ที่อยู่ใต้ดิน “ที่นอนของท่านช่างดูปลอดภัยและเงียบสงบ ข้าขอลองนอนหน่อยได้ไหม?” คุณกระต่ายก็อนุญาต แต่เมื่อบาร์นาบีมุดลงไป เขาก็รู้สึกว่ามันทั้งอึดอัดและแคบเกินไปสำหรับเขา

บาร์นาบีเดินต่อไปจนถึงริมทะเลสาบและได้พบกับรังของ คุณหงส์ ที่สร้างจากขนนกและกิ่งไม้อ่อนๆ ลอยอยู่ริมน้ำ “ที่นอนของท่านช่างดูนุ่มนวลและเย็นสบาย ข้าขอลองนอนหน่อยได้ไหม?” คุณหงส์ก็อนุญาต แต่เมื่อเขาลองเอนตัวลงนอน เขาก็รู้สึกว่ามันทั้งชื้นและเย็นเกินไป

คุณหมีน้อยบาร์นาบีเริ่มรู้สึกเหนื่อยและท้อใจ เขาจึงเดินกลับมานั่งพักที่ใต้ต้นโอ๊กใหญ่ใกล้ๆ ถ้ำของตนเอง แล้วเอนหลังพิงกับพรมมอสส์นุ่มๆ ที่โคนต้นไม้ แสงจันทร์นวลสาดส่องลงมาผ่านใบไม้ เสียงลมอ่อนๆ พัดผ่าน ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด

ในตอนนั้นเอง เขาก็นึกถึงเตียงมอสส์นุ่มๆ ของเขาในถ้ำ นึกถึงผ้าห่มใบไม้ผืนโปรด และที่สำคัญที่สุดคือนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของคุณแม่ที่นอนอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นบาร์นาบีก็เข้าใจในทันทีว่า ที่นอนที่สบายที่สุดในโลกไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย

เขาจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในถ้ำ กระโดดขึ้นไปบนเตียงของตนเอง ซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของคุณแม่ และในที่สุด คุณหมีน้อยนุ่มฟูก็ได้หลับใหลอย่างมีความสุขในที่นอนที่สบายที่สุดในโลก… ซึ่งก็คือบ้านของเขานั่นเอง

คติสอนใจ

นิทานก่อนนอน เรื่อง คุณหมีน้อยนุ่มฟูหาที่นอนที่สบายที่สุด นี้สอนให้รู้ว่า “ความสุขสบายที่แท้จริง ไม่ได้มาจากการแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอไป แต่อาจเป็นความสุขจากการรู้จักพอใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ ‘บ้าน’ ของเรานั่นเอง”

พุทธภาษิต

“ยํ ลทฺธํ เตน ตุฏฺฐพฺพํ” (ยัง ลัทธัง เตนะ ตุฏฐัพพัง) คำแปล: ได้สิ่งใด พึงพอใจด้วยสิ่งนั้น