กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ริมฝั่งแม่น้ำที่เชี่ยวกราก แมงป่องตัวหนึ่งกำลังเดินหาทางที่จะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ แต่ด้วยความที่มันว่ายน้ำไม่เป็น มันจึงได้แต่เดินวนเวียนไปมาด้วยความกังวลใจ
เนื้อเรื่อง
ในขณะที่แมงป่องกำลังจะสิ้นหวังนั้นเอง มันก็ได้เหลือบไปเห็นเต่าทองใจดีตัวหนึ่งกำลังคลานอยู่ใกล้ๆ มันจึงได้เดินเข้าไปหาแล้วเอ่ยปากขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานว่า
“ท่านเต่าทองผู้ใจดี ท่านพอจะเมตตาให้ข้าเกาะหลังของท่านเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำได้หรือไม่? หากท่านช่วยข้าในครั้งนี้ ข้าจะไม่มีวันลืมบุญคุณของท่านเลย”
เต่าทองเมื่อได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกสงสาร แต่ก็ยังคงมีความลังเลใจอยู่ มันจึงได้ตอบกลับไปว่า “ข้าก็อยากจะช่วยท่านอยู่หรอกนะ แต่ข้ากลัวว่าหากข้าให้ท่านเกาะหลังไปแล้ว ท่านอาจจะใช้เหล็กไนของท่านต่อยข้าก็ได้”
แมงป่องจึงรีบปฏิเสธในทันที “โอ้! ท่านอย่าได้กังวลไปเลย ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? หากข้าต่อยท่านจนตาย ข้าเองก็จะต้องจมน้ำตายไปพร้อมกับท่านไม่ใช่หรือ? การทำเช่นนั้นมันไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย”
เต่าทองเมื่อได้ฟังเหตุผลที่ดูน่าเชื่อถือของแมงป่องก็หลงเชื่อและยอมให้มันเกาะหลังข้ามแม่น้ำไปแต่โดยดี
แต่เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงกลางแม่น้ำนั้นเอง สันดานที่แท้จริงของแมงป่องก็ได้ปรากฏออกมา มันได้เงื้อเหล็กไนขึ้นและเตรียมที่จะต่อยเข้าไปที่กลางหลังของเต่าทอง
เต่าทองรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจึงได้ร้องถามขึ้นด้วยความตกใจว่า “ท่านกำลังจะทำอะไรน่ะ! ท่านลืมเหตุผลของท่านไปแล้วหรือ?”
แมงป่องตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ข้ารู้ดีว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย… แต่มันคือสันดานของข้า”
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง แมงป่องกับเต่าทอง นี้สอนให้รู้ว่า “สันดานดั้งเดิมของคนพาลหรือผู้ที่มีจิตใจชั่วร้ายนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ การให้ความช่วยเหลือหรือไว้ใจคนผิด อาจนำมาซึ่งภยันตรายถึงชีวิตโดยที่เราไม่คาดคิด”
พุทธภาษิต
“ทุชฺชํ ตํ อนุวตฺตนํ” (ทุชชัง ตัง อะนุวัตตะนัง) คำแปล: การประพฤติตาม (สันดานเดิม) นั้น ละได้ยาก