นิทานอีสป เรื่อง ลากับหมาป่า พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง ลากับหมาป่า พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ลาตัวหนึ่งกำลังเดินเล็มหญ้าอย่างสบายใจอยู่ในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ขณะที่มันกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น มันก็ได้เหลือบไปเห็นหมาป่าตัวหนึ่งกำลังแอบซุ่มดูมันอยู่จากหลังพุ่มไม้ ลารู้ได้ในทันทีว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายและไม่สามารถที่จะวิ่งหนีได้ทันเป็นแน่

เนื้อเรื่อง

แทนที่จะตื่นตระหนกและวิ่งหนีอย่างไร้ทิศทาง ลาเจ้าปัญญากลับรวบรวมสติแล้วคิดหาอุบายที่จะเอาตัวรอด มันแสร้งทำเป็นเดินขากะเผลกด้วยท่าทางที่เจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อหมาป่าเห็นว่าเหยื่อของตนได้รับบาดเจ็บและคงจะหนีไปไหนไม่รอดแล้ว มันจึงได้เดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วเอ่ยถามลาด้วยความสงสัยว่า “เจ้าเป็นอะไรไปน่ะสหาย ถึงได้เดินขากะเผลกเช่นนั้น?”

ลาจึงได้แสร้งทำเป็นร้องครวญครางแล้วตอบกลับไปว่า “โอ้! ท่านหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ ข้าโชคร้ายเหลือเกินที่ไปเหยียบเอาหนามแหลมคมเข้าที่กีบเท้าหลัง ทำให้ข้าเจ็บปวดจนแทบจะเดินไม่ไหว”

“ข้าคงจะหนีท่านไปไหนไม่พ้นแล้ว” ลากล่าวต่อ “แต่ก่อนที่ท่านจะกินข้าเป็นอาหาร ข้าอยากจะขอร้องให้ท่านช่วยดึงหนามที่ตำเท้าข้าอยู่นี้ออกให้ก่อนได้หรือไม่ เพื่อที่ว่าเวลาที่ท่านกินข้าเข้าไป หนามอันแหลมคมนี้จะได้ไม่ไปทิ่มตำลำคอของท่าน”

หมาป่าเมื่อได้ฟังดังนั้นก็เห็นด้วยกับเหตุผลของลาและอยากที่จะกินเหยื่อของตนเองอย่างปลอดภัย มันจึงได้เดินเข้าไปที่ด้านหลังของลาแล้วก้มหัวลงเพื่อที่จะหาหนามที่กีบเท้าหลัง

แต่ทันทีที่หมาป่าก้มหัวลงไปนั้นเอง ลาเจ้าปัญญาก็ได้ใช้จังหวะนั้นเตะเข้าที่หน้าของหมาป่าอย่างสุดแรงจนมันสลบเหมือดไปในทันที จากนั้นลาก็รีบวิ่งหนีไปได้อย่างปลอดภัย

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง ลากับหมาป่า นี้สอนให้รู้ว่า “ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สติปัญญาและไหวพริบปฏิภาณคืออาวุธที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยให้เรารอดพ้นจากสถานการณ์คับขันได้”

พุทธภาษิต

“ปญฺญาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ” (ปัญญาชีวิง ชีวิตะมาหุ เสฏฐัง) คำแปล: ผู้ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา คือผู้มีชีวิตที่ประเสริฐสุด