ในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า มีหมาป่าหนุ่มตัวหนึ่งกำลังออกเดินหาอาหาร แสงอาทิตย์ยามเย็นได้ทอดเงาของมันให้ยาวเหยียดทาบไปบนพื้นดิน ทำให้มันดูมีขนาดใหญ่โตและน่าเกรงขามกว่าความเป็นจริงหลายเท่า
เนื้อเรื่อง
หมาป่าหนุ่มเมื่อได้เห็นเงาอันมหึมาของตนเองก็บังเกิดความหยิ่งผยองและหลงตนเองขึ้นมาในทันที
“โอ้โห! ดูเงาของข้าสิ!” มันรำพึงกับตนเองด้วยความภาคภูมิใจ “ร่างกายของข้ายิ่งใหญ่และน่าเกรงขามถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดข้าจะต้องไปหวาดกลัวสิงโตเจ้าป่าผู้มีร่างกายเล็กกว่าข้าด้วยเล่า? ถึงเวลาแล้วที่ข้าผู้มีร่างกายใหญ่โตเช่นนี้จะได้ขึ้นเป็นราชาแห่งสัตว์ป่าอย่างแท้จริง!”
ในขณะที่หมาป่ากำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับความคิดอันยิ่งใหญ่และหลงระเริงอยู่ในเงาของตนเองอยู่นั้นเอง มันก็ไม่ได้ทันได้ระวังตัวเลยแม้แต่น้อยว่ามีสิงโตเจ้าป่าตัวจริงเสียงจริงกำลังซุ่มดูมันอยู่
และในพริบตาเดียว สิงโตก็ได้กระโจนออกมาจากที่ซ่อนแล้วขย้ำคอของหมาป่าผู้โง่เขลาตัวนั้นลงได้อย่างง่ายดาย
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง หมาป่าหลงตัวเอง นี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่หลงมัวเมาในภาพลักษณ์หรือความสำคัญของตนเองที่เกินจริง มักจะประมาทและมองไม่เห็นภัยอันตรายที่แท้จริงที่อยู่ตรงหน้า จนนำไปสู่ความพินาศในที่สุด”
พุทธภาษิต
“อตฺตานํ นาติวตฺเตยฺย” (อัตตานัง นาติวัตเตยยะ) คำแปล: ไม่ควรลืมตน