นิทานชาดก เรื่อง มโหสถชาดก (มโหสถบัณฑิต) พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานชาดก เรื่อง มโหสถชาดก (มโหสถบัณฑิต) พร้อมข้อคิดสอนใจ

มโหสถชาดก เป็นหนึ่งในสิบทศชาติชาดก (ทศชาติชาดก) ซึ่งเป็นเรื่องราว 10 พระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมโหสถชาดกนี้เป็นพระชาติที่ 5 ที่ทรงบำเพ็ญ “ปัญญาบารมี” หรือความรอบรู้อันยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องราวที่ยาวและซับซ้อนที่สุดในบรรดาทศชาติชาดกทั้งหมด แสดงถึงพระปรีชาสามารถของพระโพธิสัตว์ในการใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและเอาชนะศัตรูที่ยิ่งใหญ่ได้

เนื้อเรื่อง

พระโพธิสัตว์ได้ถือกำเนิดในตระกูลเศรษฐีแห่งกรุงมิถิลา ในวันที่ประสูตินั้น ท่านได้ถือแท่งยาอันเป็นทิพย์ออกมาด้วย จึงได้นามว่า “มโหสถกุมาร” ท่านแสดงให้เห็นถึงปัญญาอันหลักแหลมตั้งแต่วัยเยาว์ โดยการสร้างศาลาใหญ่ที่เพียบพร้อมด้วยสถาปัตยกรรมอันชาญฉลาด และสามารถตัดสินคดีความที่ซับซ้อนต่างๆ ให้แก่ชาวบ้านได้อย่างยุติธรรม จนชื่อเสียงของท่านดังไปถึงพระกรรณของ พระเจ้าวิเทหราช

พระเจ้าวิเทหราชจึงได้ทรงแต่งตั้งให้มโหสถบัณฑิตเป็นราชบัณฑิตที่ปรึกษาประจำราชสำนักตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ มโหสถบัณฑิตได้ใช้สติปัญญาแก้ไขปริศนาและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในราชสำนักได้สำเร็จลุล่วงทุกครั้ง แม้จะต้องเผชิญกับความอิจฉาริษยาของราชบัณฑิตเก่าทั้งสี่ก็ตาม

ความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของมโหสถบัณฑิตเกิดขึ้นเมื่อ พระเจ้าจูฬนีพรหมทัต กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงอุตรปัญจาลนคร ต้องการที่จะรวบรวมชมพูทวีปให้เป็นหนึ่งเดียวและได้ยกทัพมาเพื่อทำสงครามกับกรุงมิถิลา

สงครามในครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันด้วยสติปัญญาอย่างแท้จริงระหว่างมโหสถบัณฑิตกับ เกวัฏพราหมณ์ ที่ปรึกษาผู้เจ้าเล่ห์ของพระเจ้าจูฬนีฯ มโหสถบัณฑิตได้วางแผนการรบอย่างแยบยล เขาสามารถล่วงรู้แผนการของฝ่ายศัตรูได้ทั้งหมด และได้สร้างอุโมงค์ใต้ดินขนาดมหึมาที่เชื่อมต่อจากในเมืองไปยังนอกเมือง เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงพลและเอาชนะกองทัพของพระเจ้าจูฬนีฯ ได้ในที่สุด

แต่ด้วยปัญญาบารมีอันยิ่งใหญ่ แทนที่มโหสถบัณฑิตจะสังหารศัตรู เขากลับเลือกที่จะสถาปนาสันติภาพอันยั่งยืน โดยได้ทูลเชิญพระเจ้าจูฬนีฯ มาทำสัญญาเป็นพันธมิตรและจัดให้มีการอภิเษกสมรสระหว่างราชวงศ์ของทั้งสองเมือง เป็นการยุติสงครามด้วยปัญญาโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ

คติสอนใจ

นิทานชาดก เรื่อง มโหสถชาดก (มโหสถบัณฑิต) นี้สอนให้รู้ว่า “ปัญญาที่หลักแหลมและใช้ไปในทางที่ถูกที่ควร ย่อมเป็นอาวุธอันทรงพลังที่สุด สามารถเอาชนะอุปสรรค, ศัตรู และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีกว่าการใช้กำลังหรือทรัพย์สินใดๆ”

พุทธภาษิต

“ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต” (ปัญญา โลกัสมิ ปัชโชโต) คำแปล: ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก