นิทานอีสป เรื่อง หม้อดินกับกระทะเหล็ก พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง หม้อดินกับกระทะเหล็ก พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง กระแสน้ำได้พัดพาเอาทรัพย์สินและข้าวของต่างๆ ของชาวบ้านให้ลอยไปตามน้ำ ในบรรดาสิ่งของเหล่านั้น มีหม้อดินเผาและหม้อเหล็กสองใบที่ลอยมาเคียงข้างกันโดยบังเอิญ

เนื้อเรื่อง

กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้พัดพาให้หม้อทั้งสองลอยโคลงเคลงไปมาอย่างน่าหวาดเสียว หม้อเหล็กซึ่งมีความแข็งแกร่งทนทานเมื่อเห็นว่าหม้อดินเผาผู้บอบบางพยายามที่จะลอยออกห่างจากตน จึงได้เอ่ยขึ้นด้วยความปรารถนาดีว่า

“สหายเอ๋ย เหตุใดท่านจึงพยายามที่จะตีตัวออกห่างจากข้าเล่า? อย่าได้กลัวไปเลย ข้าจะคอยอยู่เคียงข้างและปกป้องท่านเอง หากมีสิ่งใดลอยมาปะทะ ข้าจะใช้ความแข็งแกร่งของข้าป้องกันท่านเอง”

หม้อดินเผาเมื่อได้ฟังดังนั้นจึงตอบกลับไปว่า

“ข้าขอบคุณในความหวังดีของท่านนะสหาย แต่ข้าจำเป็นที่จะต้องอยู่ให้ห่างจากท่านให้มากที่สุด” หม้อดินเผากล่าวต่อ “เพราะไม่ว่ากระแสน้ำจะพัดพาให้ท่านไปกระแทกข้า หรือพัดพาให้ข้าไปกระแทกท่าน ผลลัพธ์ก็มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือข้าผู้บอบบางจะต้องแตกสลายไปในที่สุด ส่วนท่านผู้แข็งแกร่งก็จะยังคงลอยต่อไปได้อย่างปลอดภัย”

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง หม้อดินกับกระทะเหล็ก นี้สอนให้รู้ว่า “การคบหาสมาคมกับผู้ที่มีอำนาจหรือฐานะที่แตกต่างจากเรามากเกินไป อาจนำมาซึ่งอันตรายได้โดยไม่ตั้งใจ ควรเลือกคบหาสหายที่อยู่ในสถานะที่ใกล้เคียงกันเพื่อความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมและปลอดภัย”

พุทธภาษิต

“อสนฺเถยฺยํ น กริยย” (อะสันเถยยัง นะ กะริยัยยะ) คำแปล: ไม่พึงทำความสนิทสนมในคนที่ไม่เสมอกัน