กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคนเลี้ยงม้าคนหนึ่งซึ่งดูแลม้าศึกที่แข็งแรงและสง่างามตัวหนึ่ง เขามักจะใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการดูแลรูปลักษณ์ภายนอกของม้าตัวนี้อย่างพิถีพิถัน แต่กลับละเลยในสิ่งที่สำคัญกว่านั้น
เนื้อเรื่อง
ในทุกๆ วัน คนเลี้ยงม้าจะแปรงขนของม้าจนขึ้นเงาสวยงาม, ถักทอแผงคอของมันอย่างประณีต, และขัดกีบเท้าของมันจนแวววาว เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ม้าของเขาดูสวยงามและสง่างามที่สุดในสายตาของผู้อื่น
แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เขาก็ได้แอบขโมยข้าวโอ๊ตซึ่งเป็นอาหารของม้าไปขายในตลาดอยู่เป็นประจำ แล้วนำเพียงฟางแห้งๆ ที่ไร้คุณภาพมาให้ม้ากินแทน
อยู่มาวันหนึ่ง ม้าซึ่งมีร่างกายที่ผ่ายผอมลงทุกวันเพราะขาดสารอาหารที่ดี ได้พูดกับคนเลี้ยงม้าว่า
“ท่านผู้เป็นนาย หากท่านต้องการให้ข้ามีสุขภาพที่ดีและมีร่างกายที่สง่างามอย่างแท้จริงแล้วล่ะก็ ท่านควรจะใส่ใจดูแลเรื่องอาหารการกินของข้าให้ดีกว่านี้ และใช้เวลาในการแปรงขนของข้าให้น้อยลง”
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง ม้ากับคนเลี้ยงม้า นี้สอนให้รู้ว่า “แก่นแท้และความสมบูรณ์ที่แท้จริงนั้นมาจากรากฐานที่มั่นคง ไม่ใช่จากรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเพียงอย่างเดียว การดูแลแต่เพียงเปลือกนอกโดยละเลยเนื้อแท้ที่อยู่ภายใน ย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด”
พุทธภาษิต
“ยถาวาที ตถาการี” (ยะถาวาที ตะถาการี) คำแปล: พูดอย่างใด พึงทำอย่างนั้น