นิทานก่อนนอน เรื่อง เสียงกระซิบของดวงจันทร์ พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานก่อนนอน เรื่อง เสียงกระซิบของดวงจันทร์ พร้อมข้อคิดสอนใจ

ในห้องนอนเล็กๆ ของ “น้องลินิน” ทุกสิ่งทุกอย่างจะดูน่ารักและเป็นมิตรในตอนกลางวัน แต่เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและคุณแม่ปิดไฟ ความมืดก็จะคืบคลานเข้ามา เปลี่ยนเก้าอี้ให้กลายเป็นอสูรกายหลังค่อม และเปลี่ยนกองของเล่นให้กลายเป็นมังกรหลายหัว น้องลินินกลัวความมืดที่สุด เธอจึงทำได้เพียงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงแล้วนอนตัวสั่นอยู่บนเตียง

เนื้อเรื่อง

ในคืนหนึ่ง ขณะที่น้องลินินกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ก็มีลำแสงสีเงินนวลสายหนึ่งส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ แสงนั้นอ่อนโยนและอบอุ่น ทำให้เธอรวบรวมความกล้าแล้วค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากใต้ผ้าห่ม

ทันใดนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา กระซิบแผ่วเบามาจากลำแสงนั้นว่า “อย่ากลัวเลยนะ เด็กน้อย… ความมืดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด”

น้องลินินมองตามลำแสงขึ้นไปและก็ได้พบกับ คุณพระจันทร์ ที่กำลังลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับส่งยิ้มมาให้เธอ “เจ้ากลัวอะไรอยู่หรือ?” เสียงกระซิบถาม

น้องลินินจึงชี้ไปยังเงาดำทะมึนที่มุมห้อง “ข้ากลัวอสูรกายตัวนั้น” คุณพระจันทร์จึงค่อยๆ ส่องแสงไปยังเงานั้น แล้วเงาที่เคยน่ากลัวก็ปรากฏเป็นเพียงเสื้อคลุมของคุณพ่อที่พาดอยู่บนเก้าอี้ “นั่นคือเสื้อคลุมที่รอจะมอบความอบอุ่นให้เจ้าในตอนเช้าต่างหากล่ะ” เสียงนั้นกระซิบ

จากนั้นน้องลินินก็ชี้ไปยังกองของเล่นที่ดูเหมือนมังกรหลายหัว คุณพระจันทร์ก็ส่องแสงไปที่นั่นอีกครั้ง “ส่วนนั่น ก็คือกองทัพของเล่นของเจ้าที่กำลังนอนหลับพักผ่อน เพื่อรอคอยการผจญภัยครั้งใหม่กับเจ้าในวันพรุ่งนี้”

คุณพระจันทร์กระซิบต่อไปว่า “ความมืดนั้นมีไว้เพื่อให้ทุกอย่างได้พักผ่อน ทั้งต้นไม้ ดอกไม้ และเด็กดีอย่างเจ้า ส่วนแสงของข้าก็มีไว้เพื่อส่องนำทางและเฝ้ามองทุกคนให้หลับฝันดี”

เมื่อได้ฟังดังนั้น ความกลัวในใจของน้องลินินก็ค่อยๆ สลายไป เงามืดในห้องไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไปแล้ว แต่กลับดูสงบและเป็นมิตร เธอจึงได้นอนลง ขอบคุณคุณพระจันทร์เบาๆ แล้วหลับตาลงสู่ห้วงนิทราที่เต็มไปด้วยความฝันอันแสนหวาน

คติสอนใจ

นิทานก่อนนอน เรื่อง เสียงกระซิบของดวงจันทร์ นี้สอนให้รู้ว่า “ความกลัวมักจะเกิดขึ้นจากจินตนาการในใจของเราเอง หากเราลองมองสิ่งต่างๆ ด้วยความเข้าใจและสติปัญญา แสงสว่างเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนเงาที่น่ากลัวที่สุดให้กลายเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยได้”

พุทธภาษิต

“นตฺถิ ปญฺญา สมา อาภา” (นัตถิ ปัญญา สะมา อาภา) คำแปล: แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี