นิทานอีสป เรื่อง ชาวนากับหุ่นไล่กา พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง ชาวนากับหุ่นไล่กา พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในทุ่งข้าวโพดอันกว้างใหญ่ของชาวนาผู้หนึ่ง เขาได้สร้างหุ่นไล่กาตัวหนึ่งขึ้นมาเพื่อขับไล่ฝูงนกที่ชอบมาจิกกินผลผลิตของเขา หุ่นไล่กาตัวนั้นถูกแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ และมีหน้าตาที่ดูน่ากลัว ทำให้ฝูงนกไม่กล้าที่จะบินเข้ามาใกล้

เนื้อเรื่อง

วันหนึ่ง ชาวนาได้วางตาข่ายดักนกไว้ในทุ่งข้าวโพดของตน และในไม่ช้าก็มีนกกระเรียนและนกอื่นๆ ที่ไม่ทันระวังตัวบินเข้ามาติดตาข่ายเป็นจำนวนมาก

เมื่อชาวนาเดินมาตรวจดูตาข่ายในตอนเย็น เขาก็ได้พบกับนกจำนวนมากที่จับได้ แต่ในบรรดานกเหล่านั้น ก็มีนกกระสาผู้มีพระคุณตัวหนึ่งรวมอยู่ด้วย นกกระสาตัวนี้ไม่ได้มีเจตนาจะมากินข้าวโพดเหมือนนกตัวอื่นๆ มันเพียงแค่บินตามฝูงนกกระเรียนมาเพื่อจับหนูที่คอยทำลายพืชผลในไร่เท่านั้น

นกกระสาเมื่อเห็นชาวนากำลังจะฆ่านกทั้งหมด มันจึงได้ร้องอ้อนวอนขอชีวิตว่า “โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิดท่านชาวนา! ข้าไม่ใช่นกที่มาขโมยผลผลิตของท่าน ข้าเป็นนกกระสาผู้มีคุณธรรม ข้าช่วยท่านกำจัดหนูในไร่นะ”

ชาวนาเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ตอบกลับไปว่า “เรื่องที่เจ้าพูดมานั้นอาจจะเป็นความจริง แต่ในเมื่อข้าจับเจ้าได้พร้อมกับโจรที่เข้ามาขโมยของในไร่ของข้า เจ้าก็ย่อมต้องได้รับโทษทัณฑ์เช่นเดียวกับพวกเขา”

ในขณะนั้นเอง หุ่นไล่กาที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ก็ได้ส่งเสียงพูดขึ้นมาว่า

“ท่านชาวนาผู้เป็นนาย หากท่านจะตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดโดยดูจากการคบค้าสมาคมแล้วล่ะก็ ท่านก็คงจะต้องลงโทษตัวข้าด้วยเช่นกัน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าก็ได้ยืนอยู่เคียงข้างเหล่าโจรขโมยพืชผลเหล่านี้มาโดยตลอด”

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง ชาวนากับหุ่นไล่กา นี้สอนให้รู้ว่า “อย่าด่วนตัดสินคุณค่าหรือความผิดของใครจากการคบค้าสมาคมหรือจากสิ่งที่เห็นเพียงภายนอก ควรพิจารณาจากการกระทำและเจตนาที่แท้จริงของเขาเป็นสำคัญ”

พุทธภาษิต

“นิสมฺม กรณํ เสยฺโย” (นิสัมมะ กะระณัง เสยโย) คำแปล: คิดให้รอบคอบก่อนแล้วจึงทำ ดีกว่า