กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สิงโตเจ้าป่าตัวหนึ่งได้แก่ชราลงจนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะออกไปล่าเหยื่อได้เหมือนเคย มันจึงได้เรียกสุนัขจิ้งจอกผู้เป็นสหายเจ้าเล่ห์มาปรึกษาเพื่อวางแผนหาอาหารมากินอย่างง่ายๆ
เนื้อเรื่อง
สุนัขจิ้งจอกรับอาสาที่จะไปหลอกล่อลาโง่ตัวหนึ่งในทุ่งหญ้ามาให้สิงโตถึงถ้ำ มันเดินเข้าไปหาลาแล้วกล่าวด้วยท่าทีที่นอบน้อมว่า “สหายลาเอ๋ย ข้ามีข่าวดีมาบอก บัดนี้สิงโตเจ้าป่ากำลังจะสิ้นใจแล้ว และท่านได้ถูกเลือกให้เป็นราชาองค์ต่อไปแห่งป่านี้ ขอเชิญท่านไปเข้าเฝ้าเพื่อรับมอบตำแหน่งเถิด”
ลาผู้หลงใหลในคำเยินยอ เมื่อได้ยินว่าจะได้เป็นราชาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง มันรีบเดินตามสุนัขจิ้งจอกไปยังถ้ำของสิงโตในทันที แต่เมื่อไปถึง สิงโตผู้หิวโซก็รีบกระโจนออกมาตะครุบพลาดไปโดนเพียงแค่ใบหูของลา ทำให้ลาตกใจและวิ่งหนีเตลิดไปได้
สุนัขจิ้งจอกจึงต้องกลับไปหาลาอีกครั้งแล้วออกอุบายว่า “ท่านราชาผู้สง่างาม ท่านอย่าได้ตกใจไปเลย เมื่อครู่นี้สิงโตเพียงแค่ต้องการจะกระซิบมอบคาถาแห่งราชันให้แก่ท่านเท่านั้น แต่ด้วยความชราภาพจึงทำให้พลาดไปโดนใบหูของท่านเข้า ขอเชิญท่านกลับไปอีกครั้งเถิด”
ลาผู้โง่เขลาและมัวเมาในตำแหน่งที่ไม่มีอยู่จริง ก็หลงเชื่อและเดินกลับไปยังถ้ำของสิงโตอีกครั้ง คราวนี้สิงโตไม่พลาด มันได้สังหารลาลงอย่างง่ายดาย
จากนั้น สิงโตก็ได้บอกให้สุนัขจิ้งจอกเฝ้าซากลาไว้ก่อน ส่วนตนจะออกไปดื่มน้ำที่ลำธาร เมื่อสบโอกาส สุนัขจิ้งจอกก็ได้แอบกิน “สมอง” ของลาซึ่งเป็นส่วนที่มันชอบที่สุดไปจนหมดสิ้น
เมื่อสิงโตกลับมาและพบว่าสมองของลาได้หายไป ก็ตวาดถามด้วยความโกรธว่า “สมองของลาหายไปไหน!”
สุนัขจิ้งจอกจึงได้แสร้งทำเป็นผู้รู้แล้วตอบกลับไปว่า “ข้าแต่ท่านเจ้าป่า! ท่านจะหาสมองในตัวลาตัวนี้ได้อย่างไรกัน? หากมันมีสมองอยู่กับตัว มันคงไม่โง่เขลาเดินกลับเข้ามาในถ้ำของท่านเป็นครั้งที่สองเพื่อให้ท่านจับกินอย่างง่ายดายเช่นนี้หรอก”
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง สมองลาที่หายไป นี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่หลงใหลในคำเยินยอและตำแหน่งจอมปลอมจนขาดสติไตร่ตรอง ย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ฉลาดแกมโกงได้โดยง่าย”
พุทธภาษิต
“นตฺถิ ปญฺญา อฌายิโน” (นัตถิ ปัญญา อะฌายิโน) คำแปล: ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจพิเคราะห์