มิตตวินทุกชาดก เป็นหนึ่งในนิทานชาดกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเล่าไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจถึงโทษอันร้ายแรงของ “ความอยากได้ใคร่มีที่ไม่สิ้นสุด” หรือความไม่รู้จักพอ และผลกรรมอันหนักหนาสาหัสของการทำร้ายบิดามารดาผู้มีพระคุณ ผ่านเรื่องราวการเดินทางของชายหนุ่มนามว่า “มิตตวินทุกะ”
เนื้อเรื่อง
ในอดีตกาล มีมาณพผู้หนึ่งนามว่า มิตตวินทุกะ เป็นบุตรของเศรษฐี แต่มีนิสัยเกียจคร้านและมีจิตใจหยาบช้า หลังจากที่บิดาเสียชีวิตลง มารดาของเขาผู้มีใจบุญได้ชักชวนให้เขาไปทำบุญรักษาศีลในวันอุโบสถ แต่มิตตวินทุกะไม่เพียงแต่จะไม่ไป เขายังได้ด่าทอและทุบตีมารดาเพื่อขัดขวางไม่ให้ไปทำบุญอีกด้วย
ต่อมา มิตตวินทุกะได้ตัดสินใจที่จะเดินทางทางทะเลเพื่อไปค้าขาย แม้มารดาจะร้องไห้ห้ามปรามอย่างไร เขาก็ไม่สนใจและยังคงผลักมารดาจนล้มลงแล้วเดินทางออกไป
ด้วยผลกรรมที่ทำร้ายมารดา ทำให้เรือที่เขาโดยสารไปนั้นเกิดเหตุอัศจรรย์แล่นไปไหนไม่ได้ เหล่าลูกเรือจึงได้ทำการจับสลากเพื่อหาตัวกาลกิณี และสลากก็ได้ตกที่มิตตวินทุกะถึงสามครั้ง เขาจึงถูกจับลอยแพไปกลางมหาสมุทรแต่เพียงลำพัง
แต่ด้วยผลบุญที่เคยทำมาบ้างในอดีต ทำให้เขาลอยไปถึงเกาะแก้วแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับวิมานแก้วผลึกและได้นางเวมานิกเปรต (เปรตที่มีทิพยสมบัติ) 4 ตนเป็นภรรยา เขามีความสุขอยู่ได้ระยะหนึ่ง แต่ด้วยความไม่รู้จักพอ เขาก็ได้เดินทางต่อไปจนพบวิมานเงินที่มีนางเปรต 8 ตน, วิมานแก้วมณีที่มีนางเปรต 16 ตน และวิมานทองที่มีนางเปรต 32 ตน ตามลำดับ
แม้จะได้เสวยสุขเพียงใด แต่จิตใจของเขาก็ยังคงร้อนรุ่มและปรารถนาในสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ เขาจึงได้เดินทางต่อไปอีก จนกระทั่งได้ไปถึงอุสสทนรก ซึ่งเป็นนรกขุมหนึ่ง
ณ ที่นั้น เขาได้เห็นเปรตตนหนึ่งกำลังถูก “วงจักร” ที่คมกริบหมุนบดขยี้อยู่บนศีรษะจนเลือดไหลอาบร่าง แต่ด้วยวิบากกรรมที่บดบังปัญญา ทำให้มิตตวินทุกะมองเห็นวงจักรนั้นเป็น “ดอกบัว” ที่สวยงาม เขาจึงได้เข้าไปร้องขอวงจักรนั้นจากบุรุษเปรตด้วยความอยากได้
ทันทีที่บุรุษเปรตพ้นจากกรรม วงจักรนั้นก็ได้ลอยมาสวมลงบนศีรษะของมิตตวินทุกะทันที และเริ่มบดขยี้ศีรษะของเขาให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เขาจึงได้ตระหนักในผลกรรมชั่วของตนเอง แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
คติสอนใจ
นิทานชาดก เรื่อง มิตตวินทุกชาดก (ผู้ไม่รู้จักพอ) นี้สอนให้รู้ว่า “ความอยากได้ใคร่มีที่ไม่สิ้นสุดและความไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี ย่อมเป็นเหมือนแม่น้ำเชี่ยวกรากที่พัดพาบุคคลให้ไหลไปสู่ความพินาศและความทุกข์ทรมานอันหาที่สุดมิได้ในท้ายที่สุด”
พุทธภาษิต
“นตฺถิ ตณฺหา สมา นที” (นัตถิ ตัณหา สะมา นะที) คำแปล: แม่น้ำเสมอด้วยตัณหา ไม่มี