เสรีววาณิชชาดก เป็นหนึ่งในนิทานชาดกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเล่าถึงอดีตชาติของพระองค์และพระเทวทัต เมื่อครั้งที่ทั้งสองได้เสวยพระชาติเป็นพ่อค้าหาบเร่แต่มีอุปนิสัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพื่อสอนให้เห็นถึงผลของความซื่อสัตย์สุจริตและโทษของความละโมบโลภมาก
เนื้อเรื่อง
ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นพ่อค้าหาบเร่ผู้มีความซื่อสัตย์ ส่วนพระเทวทัตก็ได้เกิดเป็นพ่อค้าหาบเร่เช่นกันแต่มีนิสัยละโมบและคดโกง วันหนึ่ง พ่อค้าทั้งสองได้เดินทางข้ามแม่น้ำเทลวาหะเพื่อไปค้าขายยังเมืองอันธปุระ และได้ตกลงที่จะแบ่งถนนกันทำมาหากินเพื่อไม่ให้ทับเส้นทางกัน
พ่อค้าขี้โกง (พระเทวทัต) ได้เดินขายของไปตามถนนที่ตนรับผิดชอบก่อน และได้ผ่านไปหน้าบ้านของครอบครัวเศรษฐีตกยากครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเหลือเพียงสองคนยายหลานอาศัยอยู่ หลานสาวเมื่อเห็นของเล่นก็อยากได้ จึงรบเร้าให้ยายนำถาดเก่าๆ ใบหนึ่งในบ้านไปแลก
ยายจึงได้นำถาดเก่าที่ตนคิดว่าไม่มีราคาออกมาเพื่อขอแลกกับของเล่น แต่พ่อค้าขี้โกงเมื่อรับถาดมาแล้วก็แอบใช้เข็มกรีดดู และพบว่าแท้จริงแล้วมันคือ “ถาดทองคำ” บริสุทธิ์ ด้วยความโลภที่อยากจะได้ถาดนี้มาฟรีๆ เขาจึงได้แสร้งทำเป็นรังเกียจแล้วโยนถาดลงพื้นพร้อมกับพูดว่า “ถาดเก่าๆ แบบนี้ไม่มีค่าอะไรเลยแม้แต่น้อย ข้าไม่รับแลกหรอก!” ว่าแล้วก็เดินจากไป โดยตั้งใจว่าจะย้อนกลับมาในตอนหลังเพื่อขอรับถาดไปแบบไม่ต้องเสียอะไรเลย
ต่อมา พ่อค้าโพธิสัตว์ (พระพุทธเจ้า) ก็ได้เดินขายของผ่านมาทางเดียวกัน สองยายหลานจึงได้ลองนำถาดใบเดิมออกมาขอแลกอีกครั้ง พ่อค้าโพธิสัตว์เมื่อเห็นถาดก็รู้ได้ในทันทีว่านี่คือถาดทองคำอันล้ำค่า จึงได้กล่าวกับสองยายหลานตามความจริงว่า
“คุณยายครับ ถาดใบนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์ มีค่ามหาศาลนัก ทรัพย์สินทั้งหมดที่ข้ามีในตอนนี้ก็ยังไม่คู่ควรกับราคาของถาดใบนี้เลย”
แต่ด้วยความซื่อสัตย์ เขาจึงได้มอบทรัพย์สินและสินค้าทั้งหมดที่เขามี ซึ่งมีมูลค่า 1,000 กหาปณะ ให้กับสองยายหลานเพื่อแลกกับถาดทองคำนั้น สองยายหลานรู้สึกตื้นตันใจในความซื่อสัตย์ของพ่อค้าเป็นอย่างยิ่งและได้ยอมแลกเปลี่ยนด้วยความเต็มใจ
ในขณะเดียวกัน พ่อค้าขี้โกงก็ได้ย้อนกลับมาที่บ้านหลังเดิมเพื่อหวังจะได้ถาดไปฟรีๆ แต่เมื่อได้ทราบว่าพ่อค้าอีกคนหนึ่งได้แลกถาดนั้นไปแล้ว เขาก็ถึงกับคลุ้มคลั่งด้วยความเสียดายและความโกรธแค้น จนในที่สุดก็เกิดอาการหัวใจวายและสิ้นใจตายอยู่ตรงนั้นเอง
คติสอนใจ
นิทานชาดก เรื่อง เสรีววาณิชชาดก (พ่อค้าเมืองเสรีวะ) นี้สอนให้รู้ว่า “ความซื่อสัตย์สุจริตแม้จะทำให้ดูเหมือนได้กำไรน้อยในตอนแรก แต่ย่อมนำมาซึ่งความเจริญที่ยั่งยืน ส่วนความโลภและการคดโกงนั้น แม้จะดูเหมือนเป็นหนทางสู่ความร่ำรวย แต่สุดท้ายก็จะนำไปสู่ความพินาศของตนเอง”
พุทธภาษิต
“อลีเกน อตฺถํ น สาเธยฺย” (อะลีเกนะ อัตถัง นะ สาเธยยะ) คำแปล: ไม่พึงให้ประโยชน์สำเร็จได้ด้วยการพูดเท็จ