กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สิงโตเจ้าป่าผู้สง่างามตัวหนึ่งกำลังเดินเล่นอยู่ริมชายหาด ขณะที่มันกำลังทอดสายตามองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่นั้น มันก็ได้เห็นโลมาตัวหนึ่งกำลังกระโจนขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างแข็งแกร่งและสง่างาม สิงโตรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งและอยากที่จะผูกมิตรกับสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องทะเลตัวนี้
เนื้อเรื่อง
สิงโตได้เดินเข้าไปทักทายโลมาที่ริมชายหาดแล้วกล่าวขึ้นว่า “สหายเอ๋ย ข้าคือสิงโตเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนท่านก็คือเจ้าแห่งท้องทะเล เราสองต่างก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาเขตของตนเอง หากเราร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน เราก็จะยิ่งแข็งแกร่งและไม่มีใครสามารถต่อกรกับเราได้”
โลมาเมื่อได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกเห็นด้วย จึงตอบตกลงที่จะเป็นเพื่อนกับสิงโต และทั้งสองก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อมีภัยมา
อยู่มาวันหนึ่ง สิงโตได้เกิดการต่อสู้กับวัวป่าตัวใหญ่ที่ดุร้าย มันต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ด้วยพละกำลังของวัวป่า ทำให้สิงโตเริ่มเสียเปรียบและตกอยู่ในอันตราย ในสถานการณ์คับขันนั้นเอง สิงโตก็นึกถึงเพื่อนรักของตนขึ้นมาได้ มันจึงรีบวิ่งไปยังชายหาดเพื่อขอความช่วยเหลือจากโลมา
เมื่อไปถึงชายหาด สิงโตก็ตะโกนเรียกโลมาด้วยเสียงอันดัง “เพื่อนรัก! ช่วยข้าด้วย! ข้ากำลังต่อสู้กับวัวป่าที่ดุร้ายอยู่ มันแข็งแกร่งมาก ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน!”
โลมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนก็รีบว่ายน้ำเข้ามาที่ริมฝั่ง แต่มันทำได้เพียงแค่ลอยคอเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่เท่านั้น ไม่สามารถขึ้นมาบนบกเพื่อช่วยสิงโตต่อสู้ได้
สิงโตเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ยอมขึ้นมาช่วยก็รู้สึกโกรธและผิดหวังเป็นอย่างมาก มันจึงตะคอกถามโลมาไปว่า “ทำไมท่านถึงไม่ยอมขึ้นมาช่วยข้า! ท่านผิดสัญญาที่ให้ไว้กับข้า!”
โลมาจึงตอบกลับไปด้วยความรู้สึกผิดว่า “เพื่อนเอ๋ย ข้าอยากจะช่วยท่านใจจะขาด แต่ข้าไม่สามารถทำได้ ธรรมชาติสร้างให้ข้าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ ข้าไม่สามารถขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่บนบกได้เลยแม้แต่น้อย ข้าต้องขอโทษท่านจริงๆ”
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง ปลาโลมากับสิงโต นี้สอนให้รู้ว่า “ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากใคร หรือเลือกใครมาเป็นพันธมิตร ควรพิจารณาถึงความสามารถและข้อจำกัดของเขาให้ดีเสียก่อน ว่าเขาสามารถที่จะช่วยเหลือเราในเรื่องที่เราต้องการได้หรือไม่”
พุทธภาษิต
“อตฺถํ อนตฺถญฺจ วิจกฺขโณ สิยา” (อัตถัง อะนัตถัญจะ วิจักขะโณ สิยา) คำแปล: ผู้มีปัญญา พึงรู้จักประโยชน์และมิใช่ประโยชน์