กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมาป่าจอมตะกละตัวหนึ่งกำลังกินอาหารอย่างมูมมามหลังจากที่ออกล่ามาได้สำเร็จ ด้วยความรีบร้อนของมัน จึงทำให้กระดูกชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งเข้าไปติดอยู่ในลำคอของมัน มันพยายามทุกวิถีทางที่จะเอากระดูกชิ้นนั้นออก แต่ก็ไม่สำเร็จ
เนื้อเรื่อง
หมาป่ารู้สึกเจ็บปวดและทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง มันวิ่งไปทั่วป่าเพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากสัตว์ต่างๆ ที่ผ่านไปมา พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะมอบรางวัลให้อย่างงามแก่ผู้ที่สามารถช่วยเอากระดูกออกจากคอของมันได้
สัตว์หลายตัวเมื่อเห็นดังนั้นก็รู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะยื่นหัวเข้าไปในปากของหมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวนั้นเลยแม้แต่ตัวเดียว
ในที่สุด ก็ได้มีนกกระเรียนใจดีตัวหนึ่งเดินผ่านมา มันรู้สึกสงสารหมาป่าและเชื่อในคำสัญญาเรื่องรางวัล จึงได้อาสาที่จะช่วยเหลือ “ตกลง ข้าจะช่วยท่านเอง” นกกระเรียนกล่าว “แต่อย่างแรก ท่านต้องอ้าปากของท่านให้กว้างที่สุดและอย่าขยับเป็นอันขาด”
ว่าแล้วนกกระเรียนก็ค่อยๆ ยื่นคอที่ยาวระหงของมันเข้าไปในปากของหมาป่าอย่างระมัดระวัง และในที่สุดมันก็สามารถใช้จะงอยปากอันแหลมยาวของมันคีบเอากระดูกชิ้นนั้นออกมาได้สำเร็จ
หลังจากที่ช่วยหมาป่าให้พ้นจากความทุกข์ทรมานแล้ว นกกระเรียนก็ได้ทวงถามถึงรางวัลตามที่หมาป่าได้สัญญาไว้
แต่หมาป่ากลับหัวเราะเยาะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้ายว่า “เจ้าช่างไม่รู้จักบุญคุณเสียจริง! การที่ข้ายอมให้เจ้าได้ยื่นหัวเข้ามาในปากของข้าแล้วยังมีชีวิตรอดกลับออกไปได้นั้น ยังไม่นับว่าเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเจ้าอีกหรือ? รีบไปให้พ้นหน้าข้าเสีย ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ!”
นกกระเรียนเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ได้แต่บินจากไปพร้อมกับบทเรียนอันล้ำค่าว่า การทำความดีกับคนพาลนั้นไม่เคยได้รับผลตอบแทนที่ดีเลย
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง นกกระเรียนกับหมาป่า นี้สอนให้รู้ว่า “การให้ความช่วยเหลือแก่คนพาลหรือคนชั่ว ไม่ควรคาดหวังว่าจะได้รับรางวัลหรือการตอบแทนใดๆ การที่ไม่ถูกทำร้ายกลับคืนมา ก็ถือเป็นรางวัลที่ดีที่สุดแล้ว”
พุทธภาษิต
“นตฺถิ พาเล สหายตา” (นัตถิ พาเล สะหายะตา) คำแปล: ความเป็นสหาย ไม่มีในคนพาล