นิทานอีสป เรื่อง นายพรานกับขวาน พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง นายพรานกับขวาน พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนายพรานผู้หนึ่งได้เดินทางเข้าไปในป่าใหญ่พร้อมกับขวานที่เพิ่งตีขึ้นมาใหม่ เขาต้องการที่จะหาด้ามขวานที่แข็งแรงทนทานเพื่อนำมาประกอบกับหัวขวานเหล็กอันแหลมคมของเขา เขาจึงได้เดินเข้าไปหาต้นไม้ใหญ่น้อยในป่าเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ

เนื้อเรื่อง

นายพรานได้เดินเข้าไปหากลุ่มต้นไม้ใหญ่แล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อมว่า “โอ้! เหล่าพฤกษาผู้ยิ่งใหญ่ ข้ามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากพวกท่านสักเล็กน้อยได้หรือไม่ ข้าต้องการเพียงแค่กิ่งไม้เล็กๆ ที่ไม่สำคัญสักกิ่งหนึ่ง เพื่อนำไปทำเป็นด้ามขวานเท่านั้น”

เหล่าต้นไม้ใหญ่เมื่อได้ฟังดังนั้น ประกอบกับเห็นว่านายพรานมีท่าทีที่นอบน้อมและขอเพียงสิ่งเล็กน้อย จึงได้ประชุมปรึกษากันแล้วมีมติให้สละกิ่งของต้นมะกอกป่าซึ่งเป็นต้นไม้ที่ดูต้อยต่ำที่สุดในบริเวณนั้นให้กับนายพรานไป

เมื่อนายพรานได้กิ่งมะกอกป่าไปแล้ว เขาก็ได้นำมันไปประกอบเข้ากับหัวขวานเหล็กของตนจนกลายเป็นขวานที่สมบูรณ์และพร้อมใช้งาน แต่ทันทีที่เขาได้ขวานเล่มใหม่มาอยู่ในมือ ท่าทีที่เคยอ่อนน้อมของเขาก็พลันเปลี่ยนไปในทันที

เขาเริ่มลงมือใช้ขวานเล่มใหม่นั้นโค่นต้นไม้ที่สวยงามและแข็งแรงที่สุดในป่าทีละต้นๆ อย่างไม่ปรานี

ต้นโอ๊กชราต้นหนึ่งเมื่อเห็นดังนั้น ก็ได้แต่รำพึงกับต้นไม้อื่นๆ ที่กำลังจะถูกโค่นว่า “นี่คือผลกรรมที่เราได้รับโดยแท้ หากในวันนั้นเราไม่ยอมสละเพื่อนผู้ต่ำต้อยของเราไปให้กับศัตรู เราก็คงจะไม่ต้องมาพบกับจุดจบที่น่าเศร้าเช่นนี้พร้อมกันทั้งหมด”

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง นายพรานกับขวาน นี้สอนให้รู้ว่า “การยอมสละพวกพ้องที่อ่อนแอเพื่อเอาใจศัตรู หรือการให้ความช่วยเหลือแก่คนพาลเพียงเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย สุดท้ายแล้วการกระทำนั้นก็จะย้อนกลับมาทำลายล้างหมู่คณะทั้งหมดในที่สุด”

พุทธภาษิต

“นตฺถิ พาเล สหายตา” (นัตถิ พาเล สะหายะตา) คำแปล: ความเป็นสหาย ไม่มีในคนพาล