นิทานชาดก เรื่อง มัจฉชาดก (พญาปลาผู้ซื่อสัตย์) พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานชาดก เรื่อง มัจฉชาดก (พญาปลาผู้ซื่อสัตย์) พร้อมข้อคิดสอนใจ

มัจฉชาดก เป็นหนึ่งในนิทานชาดกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเล่าถึงอดีตชาติของพระองค์เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพญาปลา เพื่อแสดงให้เห็นถึงอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของ “สัจจะบารมี” หรือความซื่อสัตย์จริงใจ ซึ่งสามารถบันดาลให้เกิดปาฏิหาริย์และรอดพ้นจากภยันตรายที่ร้ายแรงที่สุดได้

เนื้อเรื่อง

ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์ได้ถือกำเนิดเป็นพญาปลา (พญามัจฉา) อาศัยอยู่ในสระน้ำแห่งหนึ่งพร้อมด้วยฝูงปลาที่เป็นบริวารและเครือญาติจำนวนมาก แต่แล้วในปีหนึ่ง ได้เกิดภัยแล้งครั้งใหญ่ขึ้น ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลเป็นเวลานาน ทำให้แม่น้ำลำคลองและสระน้ำต่างๆ เริ่มแห้งขอดลงไป

สระน้ำที่พญาปลาและบริวารอาศัยอยู่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน น้ำในสระลดน้อยลงไปทุกทีจนกลายเป็นเพียงแอ่งโคลนเล็กๆ ฝูงปลาต่างพากันตื่นตระหนกและสิ้นหวัง ในขณะที่บนท้องฟ้าและริมขอบสระ ก็เต็มไปด้วยฝูงกาและนกกระสาที่กำลังเฝ้ารอคอยจิกกินฝูงปลาที่กำลังจะตายอย่างใจจดใจจ่อ

ฝูงปลาเมื่อเห็นว่าความตายกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า จึงได้พากันว่ายน้ำเข้าไปหาพญาปลาโพธิสัตว์ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้วกล่าวว่า “ข้าแต่ท่านผู้นำ บัดนี้พวกเรากำลังจะถึงซึ่งความพินาศแล้ว ทั้งภัยจากน้ำที่แห้งขอดและภัยจากเหล่าศัตรูที่รอคอยอยู่รอบด้าน ท่านพอจะมีหนทางใดที่จะช่วยเหลือพวกเราได้บ้าง”

พญาปลาโพธิสัตว์เมื่อเห็นความทุกข์ทรมานของเหล่าเครือญาติ ก็ได้ตั้งจิตมั่นและตัดสินใจที่จะทำ “สัจกิริยา” หรือการตั้งสัตย์อธิษฐานโดยอ้างถึงคุณงามความดีที่ตนได้เคยบำเพ็ญมา

ท่านได้แหวกว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำ แหงนหน้ามองท้องฟ้า แล้วเปล่งวาจาอันเป็นสัจจะว่า

“ข้าแต่เทวดาผู้รักษาฝน… นับตั้งแต่ข้าจำความได้ ข้าไม่เคยจงใจเบียดเบียนหรือพรากชีวิตของสัตว์อื่นเลยแม้แต่ตัวเดียว ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ ขอฝนจงตกลงมาเพื่อช่วยชีวิตเหล่าญาติของข้าให้รอดพ้นจากความตายด้วยเถิด!”

ทันทีที่สิ้นเสียงสัจจอธิษฐานนั้นเอง ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวก็พลันมืดครึ้มลง หมู่เมฆดำทะมึนได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าสายฝนอันชุ่มฉ่ำก็ได้โปรยปรายตกลงมาอย่างหนักจนเต็มสระน้ำในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยให้ฝูงปลาทั้งหมดรอดพ้นจากความตายได้อย่างน่าอัศจรรย์

คติสอนใจ

นิทานชาดก เรื่อง มัจฉชาดก (พญาปลาผู้ซื่อสัตย์) นี้สอนให้รู้ว่า “คุณงามความดีและสัจจะวาจาที่บุคคลสั่งสมมาอย่างสม่ำเสมอ ย่อมมีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองและหมู่คณะให้รอดพ้นจากภยันตรายที่ร้ายแรงที่สุดได้”

พุทธภาษิต

“สจฺจํ เว อมตา วาจา” (สัจจัง เว อะมะตา วาจา) คำแปล: คำสัตย์เป็นวาจาที่ไม่ตาย (เป็นอมตะ)