กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กาฝูงหนึ่งกำลังประสบกับภัยแล้งครั้งใหญ่ พวกมันต้องทนทุกข์ทรมานจากความกระหายน้ำเป็นอย่างยิ่ง และมีกาจำนวนมากล้มตายลงไปทุกวัน แต่ในฝูงนั้นมีกาชราตัวหนึ่งซึ่งยังคงมีความหวังอยู่เสมอ
เนื้อเรื่อง
วันหนึ่ง ขณะที่กาชรากำลังบินหาแหล่งน้ำด้วยความอ่อนล้าอยู่นั้น มันก็ได้เหลือบไปเห็นไหใบหนึ่งตั้งอยู่ที่เชิงเขา มันรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งและรีบบินตรงไปยังไหใบนั้นทันที โดยหวังว่าจะมีน้ำเหลืออยู่บ้าง
เมื่อมันไปถึงและมองลงไปในไห ก็พบว่ามีน้ำเหลืออยู่ที่ก้นไหเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งอยู่ลึกเกินกว่าที่จงอยปากของมันจะลงไปดื่มถึงได้ มันพยายามที่จะคว่ำไหแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะไหมีน้ำหนักมากเกินไป
ในขณะที่มันกำลังจะสิ้นหวังนั้นเอง มันก็ได้สังเกตเห็นก้อนกรวดเล็กๆ จำนวนมากตกอยู่รอบๆ ไห ด้วยสติปัญญาที่สั่งสมมานาน มันจึงได้เริ่มคาบก้อนกรวดเหล่านั้นขึ้นมาทีละก้อนๆ แล้วหย่อนลงไปในไห
น้ำในไหค่อยๆ สูงขึ้นมาทีละน้อย… ทีละน้อย… จนในที่สุดระดับน้ำก็สูงขึ้นมาจนถึงปากไห ทำให้มันสามารถดื่มน้ำดับกระหายได้สำเร็จ
แต่แทนที่มันจะดื่มน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดแล้วบินจากไป มันกลับหลงระเริงในความสำเร็จของตนเองและคิดหลอกตัวเองว่า “นี่คือมหาสมุทรส่วนตัวของข้า! ข้าเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเอง ข้าจะอยู่ที่นี่และไม่ต้องไปไหนอีกแล้ว!”
มันเฝ้าวนเวียนและหวงแหนไหน้ำใบนั้นโดยไม่ยอมออกไปหาอาหารกิน และในที่สุดมันก็ต้องอดตายอยู่ข้างๆ ไหใบนั้นเอง
คติสอนใจ
นิทานอีสป เรื่อง กาหลอกตัวเอง นี้สอนให้รู้ว่า “ความสำเร็จเพียงเล็กน้อยอาจทำให้คนบางคนหลงระเริงและหลอกตัวเองจนมองไม่เห็นความเป็นจริง การยึดติดอยู่กับความสำเร็จในอดีตโดยไม่มองไปข้างหน้า ย่อมนำไปสู่ความพินาศได้ในที่สุด”
พุทธภาษิต
“อตีตํ นานฺวาคเมยฺย” (อะตีตัง นานะวาคะเมยยะ) คำแปล: ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว