นิทานอีสป เรื่อง ชายหัวล้านสองคน พร้อมข้อคิดสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง ชายหัวล้านสองคน พร้อมข้อคิดสอนใจ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหัวล้านสองคนซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ออกเดินทางไกลร่วมกัน ในระหว่างทางที่แดดร้อนจัด พวกเขาจึงได้แวะพักผ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ ชายคนหนึ่งได้เผลอหลับไป ในขณะที่อีกคนหนึ่งยังคงตื่นอยู่

เนื้อเรื่อง

ในขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังหลับอยู่นั้น ก็ได้มีแมลงวันตัวหนึ่งบินมาตอมและไต่ไปมาอยู่บนศีรษะที่ล้านเลี่ยนของเขาสร้างความรำคาญเป็นอย่างยิ่ง ชายคนที่กำลังหลับจึงได้ยกมือขึ้นปัดไล่ แต่แมลงวันก็ยังคงบินกลับมาที่เดิม

ด้วยความรำคาญ ในที่สุดเขาก็รวบรวมกำลังตบลงไปบนหัวของตนเองอย่างแรงเพื่อหวังจะฆ่าแมลงวันตัวนั้น แต่แมลงวันกลับบินหนีไปได้ทัน ทิ้งไว้เพียงเสียงตบอันดังลั่นและรอยฝ่ามือสีแดงบนศีรษะของเขาเอง

ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ก็ไม่สามารถที่จะกลั้นหัวเราะไว้ได้ เขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นในความโชคร้ายและความผิดพลาดของเพื่อน

ชายคนที่เพิ่งตบหัวตัวเองนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาเต็มตาและเห็นว่าเพื่อนกำลังหัวเราะเยาะตนเองอย่างสนุกสนาน ความเจ็บปวดและความอับอายของเขาก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น เขาจึงได้หันไปพูดกับเพื่อนว่า

“ในเมื่อเจ้าสนุกสนานนักกับการที่ข้าแค่ตบตัวเองเบาๆ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “เจ้าก็คงจะสนุกยิ่งขึ้นไปอีกสินะ หากข้าจะใช้ก้อนหินทุ่มใส่หัวของเจ้าบ้าง!”

คติสอนใจ

นิทานอีสป เรื่อง ชายหัวล้านสองคน นี้สอนให้รู้ว่า “การหัวเราะเยาะในความโชคร้ายเล็กๆ น้อยๆ ของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะมันอาจกระตุ้นให้เกิดความโกรธแค้นและการตอบโต้ที่รุนแรงและเป็นอันตรายกว่าความผิดพลาดเดิมหลายเท่านัก”

พุทธภาษิต

“มธุวา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ” (มะธุวา มัญญะตี พาโล, ยาวะ ปาปัง นะ ปัจจะติ) คำแปล: คนพาลย่อมเข้าใจว่าบาปเป็นเหมือนน้ำผึ้ง ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล