เนมิราชชาดก เป็นหนึ่งในสิบทศชาติชาดก (ทศชาติชาดก) ซึ่งเป็นเรื่องราว 10 พระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเนมิราชชาดกนี้เป็นพระชาติที่ 4 ที่ทรงบำเพ็ญ “อธิษฐานบารมี” หรือความตั้งใจมั่นคงในคุณงามความดี เป็นเรื่องราวที่แสดงถึงพระจริยวัตรอันงดงามของพระราชาผู้ทรงธรรม จนเป็นที่เลื่องลือไปถึงเทวโลก
เนื้อเรื่อง
ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์ได้เสด็จอุบัติเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า “พระเนมิราช” ปกครองกรุงมิถิลา พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมอย่างเคร่งครัด ทรงโปรดการให้ทาน รักษาศีล และฟังธรรมในวันอุโบสถอยู่เป็นนิจ จนกระทั่งพระเกียรติคุณด้านความดีงามของพระองค์นั้นโด่งดังไปไกลถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เหล่าทวยเทพบนสวรรค์เมื่อได้ทราบถึงคุณงามความดีของพระเนมิราช ก็ต่างพากันปรารถนาที่จะได้ยลพระโฉมของพระองค์ พระอินทร์ เทพผู้เป็นใหญ่ จึงได้มีเทวบัญชาให้ มาตลีเทพบุตร นำราชรถทิพย์ลงมาทูลเชิญพระเนมิราชเสด็จขึ้นไปเยือนเทวโลก
ระหว่างการเดินทาง มาตลีเทพบุตรได้ทูลถามพระเนมิราชว่า พระองค์ประสงค์จะชม “นรก” ซึ่งเป็นดินแดนของผู้ทำบาป หรือ “สวรรค์” ซึ่งเป็นดินแดนของผู้ทำบุญก่อน ด้วยพระปรีชาญาณ พระเนมิราชได้เลือกที่จะชมนรกก่อน เพื่อที่จะได้เห็นผลของกรรมชั่วและจะได้สิ้นสุดการเดินทางในสถานที่อันเป็นสุข
พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัสของเหล่าสัตว์นรกที่ต้องชดใช้กรรมจากการกระทำอันชั่วร้ายของตนในอดีต ทำให้พระองค์ยิ่งมีพระทัยตั้งมั่นในการทำความดีมากยิ่งขึ้น จากนั้นจึงได้เสด็จขึ้นสู่สวรรค์เพื่อชมทิพยสมบัติและความสุขของเหล่าเทวดาผู้ประกอบแต่กรรมดี
เมื่อเหล่าเทวดาได้ยลพระโฉมของพระเนมิราชผู้ทรงธรรม ก็ต่างพากันชื่นชมและทูลเชิญให้พระองค์อยู่ครองทิพยสมบัติบนสวรรค์สืบไป แต่พระเนมิราชทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ (อธิษฐานบารมี) ที่จะกลับไปทำหน้าที่ของพระองค์ในโลกมนุษย์ให้สมบูรณ์ พระองค์ได้ตรัสปฏิเสธคำเชิญของเหล่าเทวดา และเสด็จกลับสู่กรุงมิถิลาเพื่อนำสิ่งที่ได้พบเห็นทั้งในนรกและสวรรค์มาสั่งสอนประชาชนของพระองค์ให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดี ละเว้นจากความชั่ว และประกอบแต่กรรมดี
คติสอนใจ
นิทานชาดก เรื่อง เนมิราชชาดก (พระเนมิราช) นี้สอนให้รู้ว่า “ความตั้งใจมั่นคงที่จะประกอบแต่คุณงามความดีและทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์โดยไม่หวั่นไหวต่อสุขสบายหรือสิ่งล่อใจ ย่อมเป็นคุณธรรมอันสูงสุดที่จะนำพาตนเองและส่วนรวมไปสู่ความเจริญที่แท้จริง”
พุทธภาษิต
“ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ” (ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง) คำแปล: ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม